วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

ผลบอลเมื่อคืน เบนฟิก้า 1-1 แมนยู
 
ผลบอลเมื่อคืน เบนฟิก้า 1-1 แมนยู

ศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2011/2012
รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก

วันพุธที่ 14 กันยายน 2554

เบนฟิก้า 1:1 แมนฯยูไนเต็ด


สนาม : เอสตาดิโอ โด สปอร์ต ลิสบัว
ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)
ถ่ายทอดสด : เวลา 01.45 น.

ผู้ทำประตู : [1:0] ออสการ์ คาร์โดโซ่ น.24 ,[1:1] ไรอัน กิ๊กส์ น.42

ครึ่งแรก

เริมเกมครึ่งแรกนาที 4 บาเลนเซีย พาบอลขึ้นทางขวาก่อนเปิดบอลจากสุดเส้นหลังปาดเข้า อาร์เทอร์ นายด่านเบนฟิก้าเนรับไว้ได้

นาที 9 เวย์น รูนี่ย์ เปิดบอลจากทางด้านขวาบอลเลยตกมาถึงบริเวณเส้นเขตโทษทางซ้าย บาเลนเซีย จับบอลลงพื้นก่อนตะบันเต็มข้อด้วยขวาบอลข้ามคานออกหลัง

นาที 15 เบนฟิก้า มาได้ลั้นบ้างจากจังหวะส่องไกลนอกกรอบของ โกลัส ไกตาน บอลเหินข้ามคานออกหลัง

นาที 20 ออสการ์ คาร์โดโซ่ ซัดด้วยขวาบอลทะลุลอกขาของ จอนนี่ อีแวนส์ แต่ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ล้มตัวรับสบาย

นาที 24 นิโกลัส ไกตาน เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาให้ ออสการ์ คาร์โดโซ่ จับบอลแต่งพลิกหนี จอนนี่ อีแวนส์ ก่อนซัดเร็วด้วยขวาบอลพุ่งหนีมือ ลินเดการ์ด เสียบตาข่าย เบนฟิก้า ขึ้นนำ 1:0

นาที 30 ฟาบิโอ ดา ซิลวา เปิดบอลเข้าในกรอบบเขตโทษ เวย์น รูนี่ย์ ได้เทกตัวขึ้นโหม่งบอลออกหลัง และในนาทีเดียวกัน ปาโบล ไอมาร์ ได้โอกาสยิงบอลข้ามคานออกหลัง

แมนฯยูมาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1:1 ในนาที 42 จากจังหวะที่ บาเลนเซีย จากบอลให้ ไรอัน กิ๊กส์ ได้กระชากจากขวาตัดเข้ากลางก่อนตะบันด้วยซ้ายแบบเต็มข้อบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมตุงตาข่ายสุดสวย

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษจะให้ ปาร์ค จี-ซอง ที่ยืนโล่งๆอยู่ที่เสาสอง แต่ทาง ลุยเซา มาโหม่งสกัดออกหลังไปได้ทัน จบเกมครึ่งแรก เบนฟิก้า ยังเสมอ แมนฯยูไนเต็ด 1:1

ครึ่งหลัง

เปิดฉากครึ่งหลังนาที 47 แมนฯยูได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ บาเลนเซีย ปาดบอลเข้าในกรอบเขตโทษจะให้ เวย์น รูนี่ย์ เข้าชาร์จแต่ อาร์เทอร์ นายทวารเจ้าบ้านล้มตัวปัดด้วยปลายมือช่วยทีมไว้ได้

นาที 53 เบนฟิก้า ได้ลุ้นถึง 2 ครั้งจากลูกที่ มักซี่ เปไรร่า โดนจับล้ำหน้าก่อนหลุดเข้าไปยิงชนเสา อีกสองนาทีต่อมา ปาโบล ไอมาร์ ได้ส่องเต็มข้อจากนอกกรอบบอลเฉียดเสาออกหลัง

นาที 63 ไรอัน กิ๊กส์ กระชากบอลล็อกหลบผู้เล่น เบนฟิก้า แบบลืมแก่ก่อหลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วซัดบอลไปติดขาของ อาร์เทอร์ นิดเดียวบอลไหลออกหลัง

อีก 2 นาทีต่อมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เสียวเมื่อ โนลิโต้ ตัวสำรองเจ้าบ้านซัดโล่งๆจากในเขตโทษทางซ้าย ลินเดการ์ด โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดหลุดเสาสองออกหลัง

นาที 77 นิโกลัส ไกตาน รับบอลจากทางฝั่งขวาแล้วลากตัดเข้ากลางก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลย้อยจะเสียบสามเหลี่ยม อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ยังเหนียวเหินปัดเซฟขามคานออกหลัง

นาที 85 นานี่ โขกชงให้ ฟิล โจนส์ ได้ลหลุดเข้าไปยิงติดเซฟกองหลัง อีก2นาทีถัดมา โนลิโต้ หลุดขึ้นมาทางเขตโทษด้านซ้ายก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเฉียดเสาเสียบหน้าต่าง เข้าสู่ช่วงท้ายเกมทำประตูเพิ่มไม่ได้จบเกม "ปิศาจแดง"แมนฯยูไนเต็ด บุกไล่เจ้า เบนฟิก้า 1:1

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

เสก โลโซ









คุยแบบชิวชิว...กับ ‘แบงค์’ ชิติพัทธ์ แทนกลาง ก่อนลัดฟ้าสู่เลสเตอร์

เมื่อครั้งที่แล้วเราตามไปเกาะติดความเคลื่อนไหวของบุรีรัมย์ อะคาเดมี่ กับ “ป๊อป” กีรติ เขียวสมบัติ กองหน้าตัวเก่งทีมชาติไทย และสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งเป็น 1 ใน 8แข้งดาวรุ่งอนาคตไกลที่ได้รับเลือกให้เดินทางไปฝึกทักษะฟุตบอลยังศูนย์ฝึกของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ ในโครงการ โรด ทู สตาร์ดอม บุรีรัมย์ อะคาเดมี่ ฟุตบอล เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ กันไปแล้ว


          วันนี้จะขอนำทุกๆ ท่านไปพบกับนักเตะฝีเท้าดีอีกหนึ่งคน ที่กำลังเตรียมตัวไปฝึกยังเกาะอังกฤษ “ชิติพัทธ์  แทนกลาง”  ปราการหลังสูงยาวเข่าดี หรือที่เพื่อนๆ เรียกกันสั้นๆ ว่า “แบงค์”


            “แบงค์” แข้งแห่งอนาคตวัย 20 ปี เจ้าของความสูง 183 ซม. หนัก 70 กก. เป็นนักเตะในตำแหน่งกองหลัง เล่นอยู่ในทีมเยาวชน ของบุรีรัมย์ พีอีเอ และใช้เวลาไม่นานในการพัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นไปมีชื่อติดเป็น  1 ในนักเตะทีมชุดใหญ่ของนักรบปราสาทสายฟ้าในซีซั่นนี้


            “สวัสดีผม ชิติพัทธ์ แทนกลาง เป็นหนึ่งในนักเตะชุดแรกที่จะเดินทางไปฝึกที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ครับ ตอนนี้กำลังเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ อยู่ โดยเฉพาะเรื่องความฟิตของร่างกายต้องเน้นเป็นพิเศษเลยครับ เพราะที่นั้นอาจต้องเจอกับนักเตะรูปร่างสูงใหญ่สไตล์ยุโรป ยิ่งเราเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟด้วยแล้ว ผมคิดว่าน่าจะหนักพอสมควรเลยละ”
          
            “นอกจากเรื่องของการเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว เรื่องภาษาก็มีความสำคัญเช่นกัน ตอนนี้หลังจากฝึกซ้อมกับทีมในช่วงเย็นเสร็จ ก็จะไปฝึกเรียนภาษากับแม่ต่ายด้วย ซึ่งจะเน้นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน และการสื่อสารกับผู้ฝึกสอน เพราะเราต้องมีพื้นฐานบ้างจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น”

            “แบงค์” เล่าให้ฟังถึงการเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันเดินทาง



            แม้จะยังไม่มีโอกาสโชว์ฝีเท้าในทีมชุดใหญ่ของบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่กำลังนำเป็นจ่าฝูง และล่าล่าถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกอยู่ในขณะนี้ แต่แข้งวัย 20 ปี ถือเป็นหนึ่งในนักเตะตัวหลักที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น กับทีมเยาวชน ชุดรองแชมป์ เอฟเอ ยูธคัพ


            “ดีใจครับ ที่มีโอกาสได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับอะคาเดมี่ที่มีชื่อเสียง และทันสมัยแห่งหนึ่งของเกาะอังกฤษ นานถึง 6 เดือน ตั้งใจว่าไปครั้งนี้ขอเก็บเกี่ยวความรู้มาให้ได้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้เสียเวลาเปล่า อีกอย่างทุกสิ่งทุกอย่างคืออนาคตของผมเอง และสโมสรที่จะต้องพัฒนาไปข้างหน้าต่อไป”


           
อย่างไรก็ตาม “แบงค์” ยอมรับว่ายังคงต้องพัฒนาฝีเท้าให้มากกว่านี้ หากต้องการที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นตัวหลักในทีมชุดใหญ่


            “สิ่งที่ผมต้องแก้ไขยังมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฟิต ความแข็งแกร่งของร่างกาย  การอ่านเกมที่ดี การแก้ไขสถานการณ์ในจังหวะที่ถูกกดดันจากคู่แข่ง สิ่งเหล่านี้คือเรื่องของประสบการณ์ที่ผมยังต้องสะสมอีกเยอะ”


          “แต่ผมมั่นใจนะว่าผมทำได้ เพราะการที่ได้เข้ามาอยู่ในอะคาเดมี่แห่งนี้ อยู่กับสโมสรที่ผมกล้าพูดว่าสุดยอดที่สุดในเมืองไทย มีความพร้อมและศักยภาพในทุกๆ ด้าน จะช่วยพัฒนาฝีเท้าให้กับผมให้แข็งแกร่งขึ้นได้”


         
ส่วนเรื่องการรับมือกับโรคโฮมซิก หรือ อาการคิดถึงบ้าน นั้น แบงค์ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะไม่ได้ไปฝึกคนเดียวแต่ไปถึง 8 คน น่าจะปรับตัวได้ไม่ยาก อีกทั้งสมัยเรียนเคยอยู่โรงเรียนประจำ จึงไม่ค่อยห่วงเรื่องนี้มากนัก


            “มีเพื่อนๆ ไปกันหลายคนครับ อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุย แต่เรื่องคิดถึงบ้านต้องมีแน่ โดยเฉพาะบรรยากาศการเชียร์ของแฟนบอลในสนาม ไปอยู่ไกลขนาดนั้นนานหลายเดือน แต่ไม่เป็นไรเดียวนี้เรื่องของการสื่อสารเปิดกว้างมาก มีอะไรก็คุยทักทายกันได้ในเฟสบุ๊ก ไม่ขาดการติดต่ออย่างแน่นอนครับ”


          “อยากฝากถึงแฟนบอลทุกๆ คน ให้ช่วยเชียร์บุรีรัมย์ พีอีเอ ของเรา ปีนี้เรามีโอกาสดีมากที่จะคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกมาครอง อยากให้ทุกคนเข้ามาให้กำลังใจในสนามกันเยอะๆ ช่วยกันสู้เพื่อศักดิ์ศรีของชาวปราสาทสายฟ้า ส่วนผมจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดกำลัง และจะกลับมาช่วยพาบุรีรัมย์ของเราประสบความสำเร็จให้ได้”  

‘เชเฟอร์’ ชื่นชม ‘รังสรรค์’เล่นได้สุดน่าทึ่ง เชื่อพัฒนาฝีเท้าช่วยทีมชาติไทยได้อีกเพียบ




เครดิต : ไทยลีกออนไลน์


 
"วินนี" วินเฟรด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ออกโรงชื่นชม "รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค" จอมทัพแห่งบุรีรัมย์ พีอีเอ ว่า เล่นได้อย่างน่าทึ่ง ในเกมเปิดบ้านไล่ถล่มโอมาน ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เชื่อจะพัฒนาฝีเท้า และช่วยทีมชาติไทยได้อีกเพียบ



หลังจากทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เปิดบ้านต้อนเอาชนะ ทีมชาติโอมาน ขาดลอย 3-0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ โดย "วินนี" วินเฟรด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันของทีมชาติไทย กล่าวยกย่องฟอร์มการเล่นของลูกทีม และภาคภูมิใจนักเตะทีมชาติไทยชุดนี้เป็นอย่างมาก หลังจากทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม



นอกจากนี้ เชเฟอร์ ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกทึ่งกับฟอร์มการเล่นของ "อ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ดาวเตะจากทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ จ่าฝูงในศึกไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมชื่นชมว่าเป็นผู้เล่นที่ยังมีศักยภาพดึงออกมาได้อีกมากมาย และสามารถตอบสนองสิ่งที่เขาต้องการได้ดี ทำให้เชื่อว่า นักเตะคนนี้ยังสามารถพัฒนาและช่วยทีมชาติได้อีกเยอะในอนาคต




อย่างไรก็ตาม อดีตกุนซือทีมชาติแคเมอรูน ชุดแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ปี 2002 กล่าวถึงชัยชนะที่สงยงามของทีมชาติไทยว่า สิ่งที่ได้เห็นในเกมนี้ เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทั้งโค้ช, ผู้เล่น และ สโมสรที่ให้ความร่วมมือดีมาก นักเตะชุดนี้มีวินัยดีมาก ทั้งในการฝึกซ้อม และในสนามแข่งขัน เขาสามารถป้อนข้อมูลให้นักเตะได้เป็นอย่าดี และขอขอบคุณสโมสรที่ให้การสนับสนุน เราเก็บสามแต้ม แต่ยังมีงานหนักอีกหลายเกมรออยู่ โดยเฉพาะกับซาอุดิอาระเบีย ดังนั้น เราต้องทุ่มเทสมาธิของเราต่อไป

โครตเก่งเลย

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

เพลงสนุก

อู้ฟู่!ผีกำไรพุ่งพรวดสร้างสถิติใหม่กว่า5พันล้าน

อู้ฟู่!ผีกำไรพุ่งพรวดสร้างสถิติใหม่กว่า5พันล้าน
อู้ฟู่!ผีกำไรพุ่งพรวดสร้างสถิติใหม่กว่า5พันล้าน
"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมขวัญใจมหาชนแห่งศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดีกรีแชมป์ลีกสูงสุด 19 สมัย เตรียมประกาศผลประกอบการซึ่งทำกำไรสูงสุดเป็นสถิติใหม่กว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 5,000 ล้านบาท)

"ผีแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมประกาศผลกำไรสูงซึ่งถือเป็นสถิติใหม่มากกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 5,000 ล้านบาท) พร้อมกันนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายนนี้จะนำหุ้น"ผีแดง"เข้าตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์

ซึ่งถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย จำนวน 25 เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตาม มัลคอล์ม เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวที่มีอยู่ใน มืออีก 75 เปอร์เซนต์

ทั้งนี้ก็เพื่อประกาศขายให้สาธารณชนนับเป็นการระดมเงินทุนครั้งแรกในการ ประกาศขายให้กับบุคคลทั่วไป

โดยงานนี้หวังทำเงินได้ราว 600 ล้านปอนด์ (ราว 30,000 ล้านบาท) เพื่อนำมาปลดหนี้ที่มีอยู่ 500 ล้านปอนด์ (ราว 25,000 ล้านบาท) ได้แบบสบายๆ สำหรับปีที่แล้ว"ผีแดง"ขาดทุนถึง 83.3 ล้านปอนด์ (ราว 4,165 ล้านบาท)

ทว่ากำไรปีล่าสุดที่จะสูงเป็นสถิติพร้อมประกาศอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ส่วนหนึ่งมาจากการออกพันธบัตรที่เป็นหุ้นกู้จำนวน 526 ล้านปอนด์ (ราว 26,300 ล้านบาท) ถือเป็นอีกช่องทางในการหาเงินมาใช้หนี้

และเมื่อฤดูกาล 2010-11 แมนฯยูไนเต็ด ได้คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีสมัย 19 กวาดรายได้ไปถึง 300 ล้านปอนด์ (ราว 15,000 ล้านบาท)

แน่นอนว่ามากกว่าปีก่อนหน้านั้น 286.4 ล้านปอนด์ (ราว 14,320 ล้านบาท) และตัวเลขนี้ยังไม่รวมสปอนเซอร์ใหม่อย่าง"ดีเอชแอล"(DHL) ที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ซึ่งจะได้เงินอีก 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท) ต่อปี

โดยจะติดเสื้อซ้อมของทีมเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ ตอนนี้ แมนฯยูไนเต็ด เป็นสโมสรกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกในเวลานี้ถึง 1.7 พันล้านปอนด์ (ราว 85,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

หลังจากที่ ตระกูลเกลเซอร์ ระดมเงินทุนทั้งกู้หนี้ยืมสินมาซื้อกิจการเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2005 ด้วยเงิน 800 ล้านปอนด์ (ราว 40,000 ล้านบาท)

แถบวีดีโอ

"โบอาส"จ้องดึง"เคฮิลล์"ยืนคู่เทอร์รี่ "เฟอร์กี้"หวั่นเชลซีแย่งแชมป์

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือทีม "ผีแดง"แมนฯ ยู จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ ชี้ทีม "สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี รองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วยังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ เรเน่ มูเลนสตีน โค้ชทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูจะออกมาเย้ยหยันเชลซีว่าเป็นทีมที่แก่เกินแกงก็ตาม แต่สำหรับเฟอร์กี้ไม่ได้คิดอย่างนั้น โดยเชื่อว่าเชลซีจะเป็นทีมที่น่ากลัวและสมควรให้ความเคารพ เพราะนักเตะที่มีประสบการณ์ค่อนข้างสูง

"พวกเขามีนักเตะที่มีประสบการณ์อย่างแฟรงก์ แลมพาร์ด, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, อเล็กซ์, นิโคลาส์ อเนลก้า และเฟอร์นันโด ตอร์เรส พวกเขาไม่ใช่ทีมเด็กที่ไร้ประสบการณ์ แต่พวกเขาก็ไม่มีนักเตะที่อายุมาก 36 ปี หรือ 37 ปีอย่างไรอัน กิ๊กส์ โดยแลมพาร์ด และดร็อกบา อายุ 33 ปี อเนลก้า อายุ 32 ปี พวกเราไม่ควรจะพูดว่าเชลซีเป็นทีมคนแก่หรือไม้ใกล้ฝั่ง พวกเขายังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว และเราหวังว่าเขาจะเป็นทีมที่ได้ลุ้นแชมป์" เฟอร์กี้กล่าว

ด้านน.ส.พ.เดลี่ เมล์ รายงานว่า อังเดร วิลลาส-โบอาส กุนซือ เชลซีเตรียมยื่นข้อเสนอดึงแกรี่ เคฮิลล์ เซ็นเตอร์ตัวแกร่งของโบลตั้นมาเสริมแนวรับในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองในเดือนม.ค.นี้ โดยวิลลาส-โบอาสต้องการดึงเคฮิลล์มายืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับจอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมที่เล่นด้วยกันในทีมชาติอังกฤษได้อย่างเหนียวแน่นและแข็งแกร่ง

ขณะที่ทีม "ไก่เดือยทอง"สเปอร์ ก็พยายามดึงเคฮิลล์มาอยู่ในถิ่นไวต์ฮาร์ตเลนในช่วงเปิดตลาดซื้อขายเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาแต่ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม กองหลังวัย 25 ปีรายนี้เหลือสัญญาเพียงปีเดียว หากในเดือนม.ค.นี้เขาไม่ยอมต่อสัญญาฉบับใหม่โบลตั้นอาจต้องขายออกไปในราคาเพียง 8 ล้านปอนด์เท่านั้น นอกจากนี้ อาร์เซนอลและลิเวอร์พูลก็ให้ความสนใจ แต่โบลตั้น เรียกเงินแพงถึง 17 ล้านปอนด์ ทั้งสองทีมจึงถอนตัว

ด้านราอูล ไมเรเลส กองกลางตัวใหม่ของเชลซียืนยันการย้ายจาก ลิเวอร์พูลมาอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ใช่มีสาเหตุมาจากเรื่องเงิน หลังจากก่อนหน้านี้มีแฟนบอลลิเวอร์พูลบางส่วนไม่พอใจที่กองกลางวัย 28 ปีชาวโปรตุกีสรายนี้ยื่นเรื่องขอย้ายทีมไปอยู่กับเชลซีในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะเมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมองว่าไมเรเลสต้องการเงินค่าเหนื่อยที่มากกว่า

"ผู้คนคิดว่าผมเป็นพวกปีศาจ และที่ย้ายทีมไปก็มีสาเหตุจากเรื่องเงิน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ผมจะอธิบายเรื่องนี้ทีหลัง สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ใช่ผมคนเดียวที่จะถูกตำหนิในการย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล แต่สำหรับผมแล้วยังรักสโมสรแห่งนี้ และยังมีเพื่อนที่ดีๆ มากมายอยู่ที่นั่น" กองกลางตัวใหม่ของเชลซีกล่าว